ประกันออมทรัพย์ (Endowment Insurance) เป็นประกันรูปแบบหนึ่งที่ผสมผสานเป้าหมายหลักอย่างการออมเงินและการคุ้มครองชีวิตไว้ด้วยกัน ประกันประเภทนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างวินัยการออมไปพร้อมกับการดูแลชีวิตในระยะยาว แต่จุดประสงค์ของประกันออมทรัพย์ไม่เพียงมอบผลประโยชน์ทางด้านการออมและการดูแลชีวิตเท่านั้น แต่ยังมอบผลประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย
บทความนี้เราขอพูดถึงข้อมูลเกี่ยวกับประกันออมทรัพย์ เหตุผลที่ควรทำประกันออมทรัพย์ และการวางแผนลดหย่อนภาษีด้วยประกันรูปแบบนี้ พร้อมแนะนำประกันออมทรัพย์ที่น่าสนใจ ที่เบี้ยประกันสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับประกอบการตัดสินใจซื้อ
ทำไมต้องเลือกทำประกันออมทรัพย์?
ประกันออมทรัพย์เปรียบเสมือนเครื่องมือที่จะนำพาคุณไปสู่เป้าหมายทางการเงิน และเติมเต็มทุกความฝันในอนาคต เพราะมีข้อดีหลายส่วน ดังนี้
- ช่วยออมระยะยาว
ประกันออมทรัพย์ช่วยให้คุณสามารถออมเงินได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว ทำให้คุณสามารถสร้างเงินออมที่มั่นคงเพื่ออนาคตได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
- ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์
ประกันออมทรัพย์ให้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป เพราะเมื่อชำระเบี้ยเพื่อออมเงินไปเรื่อย ๆ ก็จะได้เงินก้อนกลับคืนมา รวมถึงผลประโยชน์เงินคืนที่ได้จากประกันออมทรัพย์ ไม่ต้องเสียภาษีด้วย แต่ทั้งนี้ผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาคุ้มครอง จำนวนเงินเอาประกัน และประเภทของประกันด้วย
- ให้ผลตอบแทนที่แน่นอน
ช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเงินก้อนพร้อมดอกเบี้ยที่ได้กลับคืนมานี้ คุณสามารถนำไปใช้จ่ายได้ตามต้องการ เช่น ใช้เป็นทุนการศึกษาของบุตรหลาน ใช้เพื่อลงทุน หรือใช้สำหรับการศึกษาหรือท่องเที่ยวส่วนตัว
- มอบสิทธิประโยชน์ทางภาษี
หากเลือกทำประกันออมทรัพย์ที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป เบี้ยประกันภัยที่คุณจ่ายสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง
- คุ้มครองครบรอบด้าน ทั้งชีวิตและเป้าหมายทางการเงิน
หลายแผนประกันออมทรัพย์ให้ความคุ้มครองชีวิตด้วย ดังนั้นกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินชดเชยตามที่ระบุในกรมธรรม์ ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถช่วยเหลือครอบครัวของผู้เอาประกันให้สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ ครอบครัวคุณจึงมีหลักประกันทางการเงินในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
รู้จักกับประเภทของประกันออมทรัพย์
ประกันออมทรัพย์มีหลายประเภท ยืดหยุ่นตามไลฟ์สไตล์และเป้าหมายทางการเงินของแต่ละคน โดยประเภทของประกันออมทรัพย์สำหรับลดหย่อนภาษีที่พบบ่อยแบ่งได้ประมาณ 2 แบบ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกันในด้านระยะเวลาคุ้มครอง จำนวนเงินเอาประกัน เบี้ยประกัน และผลตอบแทน
1. ประกันออมทรัพย์แบบระยะสั้น
ตรงข้ามกับแบบระยะยาว เพราะระยะเวลาคุ้มครองจะอยู่ที่ 5 ปี 7 ปี หรือ 10 ปี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการออมเงินระยะสั้น เช่น ออมเงินเพื่อลงทุนหรือออมเงินเพื่อซื้อของชิ้นใหญ่ โดยประกันแบบระยะสั้นจะให้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป พร้อมทั้งคุ้มครองรวมกรณีผู้เอาประกันเสียชีวิตเช่นเดียวกับแบบระยะยาว และสามารถลดหย่อนภาษีได้ หากเลือกระยะเวลาคุ้มครองนาน 10 ปี
2. ประกันออมทรัพย์แบบระยะยาว
เป็นประเภทหนึ่งของประกันออมทรัพย์ ที่มีระยะเวลาคุ้มครองยาวนาน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 15 ปี 20 ปี 25 ปี หรือมากกว่า ทำให้ผู้ซื้อประกันสามารถออมเงินได้อย่างมีวินัย และที่สำคัญประกันแบบนี้ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง คุ้มครองรวมกรณีผู้เอาประกันเสียชีวิต และเบี้ยประกันประเภทนี้นำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ประกันออมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทรีเทิร์น 15/10 ลดหย่อนภาษีได้ ให้มากกว่าการออม
หากพูดถึงประกันออมทรัพย์ออนไลน์ ที่ทั้งช่วยสร้างเงินออม และนำไปลดหย่อนภาษีได้ ประกันออมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทรีเทิร์น 15/10 จาก กรุงเทพประกันชีวิต (Bangkok Life Assurance) เป็นอีกประกันที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะมอบผลประโยชน์เงินคืน ยังมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีไปพร้อมกันด้วย โดยสิทธิประโยชน์ที่ผู้เอาประกันจะได้รับหลังสมัครรับความคุ้มครอง มีดังนี้
ประกันออมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทรีเทิร์น 15/10
สร้างเงินออมหลักแสน ด้วยเบี้ยเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,000 บาท
- รับเงินคืนทุกปี ปีละ 2%* ครบกำหนดสัญญา รับ 108%*
- คุ้มครองชีวิต 15 ปี กรณีเสียชีวิต รับเงินคืนสูงสุด 130%* (*% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย)
- ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
ตัวอย่างผลประโยชน์เงินคืนที่จะได้รับ
เมื่อซื้อประกันออมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทรีเทิร์น 15/10
แผนชำระค่าเบี้ย | เบี้ยประกันภัย | เงินคืนทุกปี | เงินคืนครบกำหนดสัญญา |
รายเดือน | 1,000 บาท | 2,000 บาท | 108,000 บาท |
3,000 บาท | 6,000 บาท | 324,000 บาท | |
5,000 บาท | 10,000 บาท | 540,000 บาท | |
รายปี | 12,000 บาท | 2,000 บาท | 108,000 บาท |
36,000 บาท | 6,000 บาท | 324,000 บาท | |
48,000 บาท | 8,000 บาท | 432,000 บาท | |
ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท/ปี ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด |
วางแผนภาษีกับประกันออมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทรีเทิร์น 15/10 เริ่มตั้งแต่วันนี้ ยิ่งเริ่มไว ใช้เบี้ยลดหย่อนภาษีได้
กรณีตัวอย่าง 1: พนักงานเงินเดือนหรือลูกจ้างที่มีรายได้เป็นประจำทุกเดือน ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายทางภาษีรายปี
วิธีวางแผนจัดการภาษี:
ผู้ที่มีรายได้ตามกรณีตัวอย่าง อาจพิจารณาวางแผนลดหย่อนภาษี ดังนี้
– เบื้องต้นสามารถซื้อประกันออมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทรีเทิร์น 15/10 โดยการจ่ายค่าเบี้ยทุกเดือน เริ่มต้นที่ 1,000 บาทต่อเดือน เพื่อสะสมเบี้ยประกันที่จ่ายไปเรื่อย ๆ จนถึงสิ้นปี ค่าเบี้ยที่จ่ายไปรวมทั้งปี เท่ากับปีละ 12,000 บาท เมื่อดูผลประโยชน์เงินคืนแล้ว จะได้รับเงินคืนที่ 2%* หรือ 2,000 บาทต่อปี ในทุก ๆ ปี
– หากมีการชำระค่าเบี้ยสะสมในแต่ละเดือนที่มากขึ้น ก็จะยิ่งได้รับเงินคืนมากขึ้น ซึ่งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาทต่อปี
– หากครบกำหนดสัญญา นอกจากเบี้ยประกันจะใช้ลดหย่อนภาษีได้แล้ว พนักงานท่านนี้จะยังได้รับเงินคืนก้อนใหญ่ที่เป็นเงินออมหลักแสนอีกด้วย
กรณีตัวอย่าง 2: ผู้ชายชื่อนาย A อายุ 35 ปี มีเงินเดือน 40,000 บาทต่อเดือน ไม่มีคู่สมรส ซื้อประกันสุขภาพสำหรับลดหย่อนภาษีไว้แล้ว 1 แผนประกัน ค่าเบี้ยอยู่ที่ 12,906 บาทต่อปี ไม่มีประกันประเภทอื่นที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ และที่ทำงานมีการนำส่งประกันสังคมให้ส่วนหนึ่งด้วย นาย A มักคำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปีเพื่อดูรายการที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และวางแผนซื้อประกันออมทรัพย์ตั้งแต่ช่วงต้นปี – กลางปีเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีในช่วงปลายปี
วิธีวางแผนจัดการภาษี:
จากกรณีตัวอย่าง อาจพิจารณาวางแผนลดหย่อนภาษี ดังนี้
– เนื่องจากนาย A มีการซื้อประกันสุขภาพไว้ 1 แผน จึงใช้ลดหย่อนภาษีไปได้ส่วนหนึ่ง เมื่อคำนวณภาษีแล้ว ทำให้เหลือภาษีที่ต้องจ่ายอยู่ที่ 7,405 บาท
– นาย A อาจวางแผนซื้อประกันออมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทรีเทิร์น 15/10 เพิ่มอีก 1 แผนประกัน โดยการจ่ายค่าเบี้ยทุกเดือน เริ่มต้นที่ 1,000 บาทต่อเดือน เพื่อสะสมเบี้ยประกันที่จ่ายไปเรื่อย ๆ จนถึงสิ้นปี นำไปลดหย่อนเพิ่มได้สูงสุด 100,000 บาท
– เมื่อครบ 1 ปี นาย A จะได้ผลประโยชน์เงินคืน 2,000 บาท นำไปแบ่งเบาภาระค่าภาษีได้ ซึ่งนาย A สามารถวางแผนเลือกจ่ายเบี้ยฯ รายเดือน หรือรายปี ได้ตามแผนการเงินของตนเอง และหากชำระค่าเบี้ยในแต่ละเดือนมากขึ้น ก็จะได้รับผลประโยชน์เงินคืนเพื่อใช้แบ่งเบาค่าใช้จ่ายทางภาษีเพิ่มขึ้น และหากจ่ายค่าเบี้ยฯ จนครบกำหนดสัญญา ก็จะได้รับเงินคืนเป็นเงินออมหลักแสนเช่นเดียวกัน
จากกรณีตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าการซื้อประกันออมทรัพย์เป็นการลงทุนที่ดี หากใครกำลังมองหาทางเลือกลดหย่อนภาษี สิ้นปีรับเงินคืน สามารถศึกษาผลประโยชน์และเงื่อนไขของประกันออมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทรีเทิร์น 15/10 ไว้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้
นอกจากจะตอบโจทย์และเติมเต็มทุกเป้าหมายทางการเงิน การวางแผนภาษีด้วยการซื้อประกันออมทรัพย์เพื่อให้เบี้ยประกัน ลดหย่อนภาษี เป็นอีกทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับผู้เสียภาษี หากสนใจซื้อประกันดังกล่าว สามารถซื้อได้ที่เว็บไซต์: https://bla.bangkoklife.com/RHQ2WI6rQ4 หรือ โทร.02 -777-8888 เพื่อปรึกษาและรับรายละเอียดแผนประกันเพิ่มเติมจากกรุงเทพประกันชีวิต (Bangkok Life Assurance) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไข ความคุ้มครอง และข้อยกเว้น ก่อนการตัดสินใจทำประกันภัย ทั้งนี้ เงื่อนไข ความคุ้มครอง และข้อยกเว้นอย่างสมบูรณ์จะระบุในกรมธรรม์